FTTX
FIBER TO ROOM
สำหรับโรงแรม อพาร์ทเมนท์ ขนาดใหญ่
โครงข่ายเข้าถึงทุกห้องพัก ที่ต้องการความเร็วสูงสุด
LAN
LAN TO ROOM
สำหรับโรงแรม อพาร์ทเมนท์ ขนาดใหญ่
โครงข่ายเข้าถึงทุกห้องพัก ที่ต้องการความเร็วสูง
WIFI
WIFI HOTSPOT
สำหรับโรงแรม อพาร์ทเมนท์ ขนาดเล็ก-กลาง
ให้บริการในพื้นที่ส่วนกลาง สัญญาณครอบคลุมเป็นวงกว้าง
Fiber Optic หรือ สายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง เป็นระบบที่มีความเสถียรสูง เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ผ่านระบบโครงข่ายใยแก้วนำแสง และในปัจจุบัน Fiber Optic มีความจำเป็นมากขึ้นในการช่วยแก้ปัญหาให้กับหน่วยงาน และ องค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบเครือข่ายเช่น การติดต่อสื่อสาร การเชื่อมโยงระบบเครือข่ายของตึกที่มีระยะห่างไกล ซึ่งสาย LAN หรือ UTP ไม่สามารถส่งสัญญาณได้ถึง Fiber Optic จึงเข้ามาแก้ปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี
FTTx หรือ Fiber to the x เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยใช้สายใยแก้วนำแสง ส่งสัญญาณจากอุปกรณ์ต้นทางไปยังห้องพักโดยตรง ทำให้คุณภาพ และความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลมีความเร็ว และความเสถียรสูง ระบบสามารถรองรับความเร็วถึง 10Gbps มีการลดทอนสัญญาณต่ำ สามารถส่งสัญญาณได้ไกลกว่า 20 กิโลเมตรในสายเส้นเดียว ซึ่งโครงข่ายใยแก้วนำแสงจะเป็นโครงข่ายชนิด Passive คือ ไม่ต้องใช้กระแสไฟฟ้าในการทำงานของอุปกรณ์ในส่วนของการกระจายสัญญาณจากคู่สายใยแก้วนำแสงต้นทางระหว่างชั้นถึงห้องพัก ซึ่งจะทำให้มีค่าบำรุงรักษาที่น้อยกว่าระบบอื่นมาก และ การส่งสัญญาณแบบการสะท้อนของแสงในโครงข่ายทำให้ไม่เกิดการกวนกันของสัญญาณไฟฟ้า ข้อดีคือ ทำให้ไม่จำเป็นต้องแยกรางโทรคมนาคม ออกจากรางไฟฟ้าภายในอาคาร
ระบบ Fiber to the Room เหมะสำหรับอาคารที่ต้องการใช้งานระบบอินเทอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพสูง มีความเร็วต่อห้องตั้งแต่ 100-1000 Mbps ขึ้นไป และต้องการความเสถียรของสัญญาณสูงมาก ซึ่งอาคารที่ควรใช้ระบบอินเทอร์เน็ตแบบโครงข่ายสายใยแก้วนำแสงจะเป็นอาคารสูง High Rise ที่มีจำนวนชั้นมากกว่า 8 ชั้นขึ้นไป และเป็นอาคารที่มีจำนวนห้องเกินกว่า 20 ห้องต่อชั้น
OLT
อุปกรณ์ที่นำมาติดตั้งเพื่อให้บริการ เรียกว่า OLT (Optical LIne Terminal)
เป็นอุปกรณ์ควบคุมเครือข่าย FTTx โดยจะรับข้อมูลจากทางผู้ให้บริการแล้วส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์ปลายทาง อุปกรณ์ชนิดนี้จะถูกติดตั้งอยู่บริเวณห้องเซิฟเวอร์หรือห้องไฟฟ้าหลักของอาคาร
Splitter
อุปกรณ์กระจายสัญญาณในคู่สายใยแก้วนำแสงจากตู้พักแต่ละชั้นออกเป็นหลายๆเส้นเพื่อเชื่อมต่อไปยังแต่ละห้องพัก อุปกรณ์ชนิดนี้จะถูกติดตั้งอยู่บริเวณห้องชาร์ปไฟฟ้าทุกชั้นของอาคาร
ONU
Optical Network Unit เป็นอุปกรณ์รับ-ส่งสัญญาณระหว่าง OLT เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตภายในอาคาร และกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปยังเครื่องลูกข่าย เช่นโทรศัพท์มือถือ เทปเล็ต และคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ชนิดนี้จะถูกติดตั้งอยู่ในทุกห้องพักของอาคาร
การติดตั้งและการให้บริการ
บริษัทจะวางโครงข่ายสายใยแก้วนำแสงเพื่อให้มีโครงข่ายที่ครอบคลุมทั้งอาคาร โดยระบบจะเป็นการเดินสายนำสัญญาณเข้าถึงห้องพัก (To Room) เพื่อให้ได้คุณภาพสัญญาณที่ดีที่สุด
ระบบ Fiber to the Room ปัจจุบันมีเทคโนโลยีหลักที่ได้รับการยอมรับตามมาตรฐานสากลอยู่ด้วยกันคือ EPON และ GPON โดยสามารถแบ่งได้ตามวัตถุประสงค์ของผู้ใช้งาน ผู้ประกอบการควรเลือกให้เหมาะสมต่อวัตถุประสงค์ในใช้งานและขนาดของอาคาร ดังนี้
EPON
EPON หรือ Ethernet Passive Optical Network เป็นมาตรฐานของ IEEE 802.3 Standard มีความเร็ว 1 Gbps Downstream และ Upstream โดยประมาณ ส่งถ่ายชุดข้อมูลจำพวก สัญญาณอาเทอร์เน็ต สัญญาณเสียง และวีดีโอเซอร์วิส นิยมใช้ในประเทศในแถบเอเชียและยุโรป ชุดอุปกรณ์ออกแบบมาเพื่อโครงข่ายขนาดกลางที่มีผู้ใช้ตั้งแต่ 100-200 คน ระบบรองรับการทำงานในอพาร์ทเมนท์หรือโรงแรมขนาดกลาง ต้นทุนต่อการลงทุนต่ำกว่า
GPON
GPON หรือ Gigabit Passive Optical Network เป็นมาตรฐานของ ITU Standard ความเร็ว 2.5 Gbps Downstream และ Upstream ขึ้นไปโดยประมาณ สามารถส่งถ่ายข้อมูลได้มากกว่า และมีความปลอดภัยกว่า นิยมใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกา ออกแบบมาเพื่อโครงข่ายขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้ตั้งแต่ 200-400 คน ระบบรองรับการทำงานในอพาร์ทเมนท์หรือโรงแรมขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่
Local Area Network หรือ ระบบโครงข่ายผ่านสาย สาย UTP เป็นสายสัญญาณที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบันย่อมาจากคำว่า Unshielded Twisted Pair เป็นสายขนาดเล็กที่ไม่มีชีลด์ห่อหุ้ม มีเส้นตีเกลียวเป็นคู่ๆ เพื่อลดสัญญาณรบกวนในการเชื่อมต่อ โดยจะใช้หัวต่อแบบ RJ-45 เป็นสองหัวต่อสาย 1 เส้นสามารถต่อสายได้ยาวสูงสุดประมาณ 100 เมตร
Lan To Room เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยใช้สาย UTP (Unshielded Twisted Pair) เป็นสายทองแดงบิดเกลียว ส่งสัญญาณจากอุปกรณ์ต้นทางไปยังห้องพักโดยตรง ผ่านตัวรับสัญญาณภายในห้องพัก ทำให้คุณภาพและความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลมีความเร็ว และความเสถียรสูง ระบบสามารถรองรับความเร็วถึง 1Gbps ระยะส่งสัญญาณของสาย UTP จะไม่เกิน 100-250 เมตรต่อ 1 คู่สาย ทำให้โครงข่ายชนิดนี้ต้องใช้อุปกรณ์ในการขยายสัญญาณหรือที่เรียกว่า สวิตช์ (Switch) ซึ่งจะเป็นโครงข่ายชนิด Active คือ ต้องใช้กระแสไฟฟ้าในการทำงานของอุปกรณ์ในส่วนการกระจายสัญญาณจากคู่สายทองแดงระหว่างชั้นถึงห้องพัก ซึ่งจะทำให้มีค่าบำรุงรักษาในระดับปานกลาง และ อาจมีการกวนกันของสัญญาณไฟฟ้า ทำให้จำเป็นต้องแยกรางโทรคมนาคม ออกจากรางไฟฟ้าภายในอาคาร
อาคารไหนควรใช้บริการ Lan to Room
ระบบ Lan to Roon เหมะสำหรับอาคารที่ต้องการใช้งานระบบอินเทอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพสูง มีความเร็วต่อห้องตั้งแต่ 100-1000 Mbps และต้องการความเสถียรของสัญญาณสูง ซึ่งอาคารที่ควรใช้ระบบอินเทอร์เน็ตแบบโครงข่ายสายทองแดงจะเป็นอาคารขนาดกลางมีความสูงไม่มาก Low Rise ที่มีจำนวนชั้นน้อยกว่า 8 ชั้น และเป็นอาคารที่มีจำนวนห้องไม่เกิน 20 ห้องต่อชั้น
Switch
สวิตช์ (Switch) อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อและขยายสัญญาณในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตกับอุปกรณ์กระจายสัญญาณ Access Point อุปกรณ์ชนิดนี้จะถูกติดตั้งอยู่บริเวณห้องชาร์ปไฟฟ้าทุกชั้น ของอาคาร
อุปกรณ์ที่กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปยังเครื่องลูกข่าย เช่นโทรศัพท์มือถือ เทปเล็ต คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ชนิดนี้จะถูกติดตั้งอยู่ในทุกห้องพักของอาคาร
การติดตั้งและการให้บริการ
บริษัทฯจะวางโครงข่ายสายใยทองแดง (UTP) เพื่อให้มีโครงข่ายครอบคลุมทั้งอาคาร โดยระบบจะเป็นการเดินสายนำสัญญาณเข้าถึงห้องพัก (To Room) เพื่อให้ได้คุณภาพสัญญาณที่ดีที่สุด
WiFi Hotspot หรือ โครงข่ายที่ใช้อุปกรณ์ Access Point ติดตั้งตามโถงทางเดิน และ ในห้องที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับการกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้ผู้ใช้ที่มีจำนวนมาก หรือ พื้นที่ที่ไม่สามารถเดินสายนำสัญญาณเข้าไปถึงห้องพักได้ การใช้งานจะเป็นการ Login เพื่อยืนยันตัวตนก่อนเข้าสู่ระบบผ่านหน้าเว็ปไซต์ หรือการใช้งานผ่านระบบบัตรคูปอง
WiFi Hotspot คือการเดินสาย UTP (Unshielded Twisted Pair) เป็นสายทองแดงบิดเกลียว จากอุปกรณ์ต้นทางไปยังอุปกรณ์ Access Point ที่ติดตั้งตามโถงทางเดิน และ ในห้องที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับการกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้ผู้ใช้ที่มีจำนวนมาก หรือ พื้นที่ที่ไม่สามารถเดินสายนำสัญญาณเข้าไปถึงห้องพักได้ การใช้งานจะเป็นการ Login เพื่อยืนยันตัวตนก่อนเข้าสู่ระบบผ่านหน้าเว็ปไซต์ หรือผ่านระบบบัตรคูปอง ซึ่งความเสถียรของสัญญาณจะแปรผันไปตามระยะทางระหว่างจุดกระจายสัญญาณและตำแหน่งของผู้ใช้งาน
ระบบ WiFi Hotspot เหมะสำหรับอาคารที่ต้องการใช้งานระบบอินเทอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพปานกลาง-สูง และมีจำนวนผู้ใช้งานต่อพื้นที่นั้นๆจำนวนมาก เช่น ห้องรับประทานอาหาร, ห้องประชุม, ห้องสันทนาการ มีความเร็วต่อ 1 ผู้ใช้งานไม่เกิน 200 Mbps ซึ่งความเสถียรของสัญญาณจะแปรผันไปตามระยะทางระหว่างจุดกระจายสัญญาณและผู้ใช้งาน ซึ่งอาคารที่ควรใช้ระบบอินเทอร์เน็ตแบบโครงข่ายสายทอดแดงจะเป็นอาคารขนาดกลางมีความสูงไม่มาก Low Rise ที่มีจำนวนชั้นน้อยกว่า 8 ชั้น และเป็นอาคารที่มีจำนวนห้องไม่เกิน 20 ห้องต่อชั้น
POE Switch
สวิตช์ (POE Switch) อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อและขยายสัญญาณในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้ากระแสตรงให้กับอุปกรณ์กระจายสัญญาณ Access Point อุปกรณ์ชนิดนี้จะถูกติดตั้งอยู่บริเวณห้องชาร์ปไฟฟ้าทุกชั้น ของอาคาร
Access Point
อุปกรณ์ที่กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปยังเครื่องลูกข่าย เช่นโทรศัพท์มือถือ เทปเล็ต คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ชนิดนี้จะถูกติดตั้งอยู่ในทุกห้องพักของอาคาร
การติดตั้งและการให้บริการ
บริษัทฯจะวางโครงข่ายสายใยทองแดง (UTP) เพื่อให้มีโครงข่ายครอบคลุม โดยระบบจะเป็นการเดินสายนำสัญญาณจาก สวิตซ์ในแต่ละชั้นของอาคารเชื่อมต่อกับอุปกรณ์กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ต Access Point เพื่อให้ได้คุณภาพสัญญาณที่ดีที่สุด เหมาะกับอาคารประเภทโรงแรม และในพื้นที่ส่วนกลางที่ต้องการรองรับผู้ใช้งานจำนวนมาก
ควรเลือกระบบ WiFi แบบไหนดี ?
ระบบ WiFi Hotspot ในท้องตลาดปัจจุบันมีสินค้ามากมายในตลาด ผู้ประกอบการควรเลือกให้เหมาะสมต่อวัตถุประสงค์ในใช้งานและขนาดของอาคาร ดังนี้
WiFi SME
ระบบ WiFi SME จะใช้อุปกรณ์กระจายสัญญาณที่มีคุณภาพและสามารถรองรับการทำงานสองความถี่ได้ (2.4 และ 5 GHz) Dual Band สำหรับกระจายสัญญาณไม่เกินจำนวน 1 ต่อ 10 ผู้ใช้งาน เหมาะกับการใช้งานในอพาร์ทเมนท์ โรงแรมขนาดเล็ก และพื้นที่ส่วนกลาง
ตัวอย่างแบรนด์สินค้า TP-Link, Mercusys, D-Link, Zyxel, Tenda
WiFi Enterprise
ระบบ WiFi Enterprise จะใช้อุปกรณ์กระจายสัญญาณที่มีคุณภาพสูงกว่า รองรับการทำงานตลอด 24 ชม ที่อุณหภูมิสูงขึ้น อีกทั้งระบบต้องสามารถรองรับการปรับเปลี่ยนคลื่นความถี่สัญญาณที่กวนกันได้ สามารถสลับการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ระหว่างที่ผู้ใช้งานมีการเคลื่อนที่ได้อย่างเหมาะสมรวดเร็ว สำหรับกระจายสัญญาณมากกว่าจำนวน 1 ต่อ 20 ผู้ใช้งาน เหมาะกับการใช้งานในอพาร์ทเมนท์ โรงแรมขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ และพื้นที่ส่วนกลางที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก
ตัวอย่างแบรนด์สินค้า CISCO, Aruba, Ruckus, Huawei
ตัวอย่างแบรนด์สินค้า IP-COM, Ubiquiti, Engenius